แชร์

ความแตกต่างระหว่าง UPS แบบเฟสเดียวและสามเฟส

อัพเดทล่าสุด: 5 มิ.ย. 2025
141 ผู้เข้าชม

ความแตกต่างระหว่าง UPS แบบเฟสเดียวและสามเฟส
เครื่องสำรองไฟ (UPS) มีสองรูปแบบหลัก คือ แบบเฟสเดียว (Single-Phase) และ แบบสามเฟส (Three-Phase) โดยแต่ละแบบมีการใช้งานและข้อได้เปรียบที่แตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้ใช้งาน:

เครื่องสำรองไฟแบบเฟสเดียว (Single-Phase UPS System)
เครื่องสำรองไฟแบบเฟสเดียวหมายถึงระบบที่มีแหล่งจ่ายไฟเข้าและออกเป็นแบบเฟสเดียว โดยเป็นอัตราส่วน 1:1 ซึ่งเหมาะสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปที่ใช้ไฟฟ้าจากปลั๊กสามขามาตรฐาน เช่น:

  • เซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กที่ติดตั้งในตู้แร็ค
  • อุปกรณ์โทรคมนาคม
  • สวิตช์เครือข่าย
  • ระบบคอมพิวเตอร์

UPS แบบเฟสเดียวมักถูกใช้ในงานติดตั้งขนาดเล็กหรือในอาคารที่มีระบบไฟฟ้าแบบเฟสเดียว ซึ่งเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กหรือใช้งานในบ้าน ระบบนี้รองรับกำลังไฟได้สูงสุดประมาณ 20 kVA และสามารถจัดการกับการจ่ายไฟแบบคลื่นไซน์เฟสเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครื่องสำรองไฟแบบสามเฟส (Three-Phase UPS System)
เครื่องสำรองไฟแบบสามเฟสเหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการพลังงานจำนวนมาก เช่น:

  • ศูนย์ข้อมูล (Data Centers)
  • โรงพยาบาล (เช่น ห้องผ่าตัดที่ต้องการไฟฟ้าต่อเนื่อง)
  • โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มีมอเตอร์ เช่น:

  • ลิฟต์
  • ปั๊มน้ำ
  • พัดลม

ระบบไฟฟ้าแบบสามเฟสเป็นการรวมกันของแหล่งจ่ายไฟเฟสเดียว 3 ชุดที่เชื่อมต่อกัน โดยมีระยะเฟสที่ต่างกัน 120 องศา เพื่อให้การจ่ายไฟเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเสถียร พลังงานจากระบบสามเฟสจะถูกส่งมาจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลักมายังจุดจ่ายไฟในอาคาร และสามารถแบ่งออกเป็นไฟเฟสเดียวเพื่อใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป หรือส่งตรงไปยังอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานสามเฟส

ระยะเฟส 120 องศาคืออะไร?
คลื่นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) มีลักษณะเป็นคลื่นไซน์ (Sinusoidal Waveform) ที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา โดยในระบบไฟฟ้าสามเฟส จะมีคลื่นไฟฟ้ากระแสสลับ 3 ชุดที่ถูกสร้างขึ้นและส่งผ่านสายไฟแยกกัน โดยแต่ละชุดมีความแตกต่างในช่วงเวลาการเริ่มต้นของคลื่น หรือที่เรียกว่า ระยะเฟส (Phase Angle) ซึ่งในระบบสามเฟส แต่ละคลื่นจะมีระยะห่างกัน 120 องศาไฟฟ้า

ทำไมถึงต้องใช้ระยะเฟส 120 องศา?
การใช้ระยะเฟส 120 องศามีข้อดีสำคัญดังนี้:

  1. การจ่ายพลังงานต่อเนื่อง:
    ระยะเฟส 120 องศาทำให้คลื่นไฟฟ้าของแต่ละเฟสไม่ทับซ้อนกัน และมีช่วงที่คลื่นของเฟสหนึ่งกำลังเพิ่มขึ้นในขณะที่คลื่นของเฟสอื่นกำลังลดลง ส่งผลให้การจ่ายพลังงานรวมมีความต่อเนื่องตลอดเวลา
  2. ลดการสูญเสียพลังงาน:
    ระบบสามเฟสมีการกระจายโหลดไฟฟ้าอย่างสมดุล ทำให้ลดการสูญเสียพลังงานในสายไฟเมื่อเทียบกับระบบเฟสเดียวที่ต้องส่งพลังงานในช่วงเวลาที่มีแรงดันสูงสุดเท่านั้น
  3. เสถียรภาพสูงกว่า:
    ในระบบสามเฟส จะไม่มีช่วงเวลาที่กระแสไฟฟ้าลดลงจนถึงศูนย์ (Zero Crossing) เนื่องจากมีเฟสใดเฟสหนึ่งที่กำลังจ่ายพลังงานอยู่เสมอ

การทำงานของเฟส 120 องศาในภาพรวม

  1. คลื่นของเฟสแรกเริ่มต้นที่เวลา 0 องศา
  2. คลื่นของเฟสที่สองเริ่มต้นที่เวลา 120 องศา
  3. คลื่นของเฟสที่สามเริ่มต้นที่เวลา 240 องศา

หากวาดกราฟคลื่นของแต่ละเฟสออกมา จะเห็นว่าแต่ละคลื่นมีระยะห่างกันอย่างสมดุล 120 องศาตลอดเวลา

เปรียบเทียบกับทีมพายเรือ
ลองนึกถึงทีมพายเรือที่มีคนพาย 3 คน โดย:

  • คนแรกพายเมื่อเริ่มต้น
  • คนที่สองเริ่มพายในเวลาที่คนแรกกำลังลดจังหวะ (120 องศา)
  • คนที่สามเริ่มพายต่อเมื่อคนที่สองกำลังลดจังหวะ (240 องศา)

ผลลัพธ์คือ เรือเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น ไม่มีช่วงหยุดนิ่งหรือชะลอตัว

การใช้งานจริงในระบบสามเฟส

  1. การส่งพลังงาน:
    ไฟฟ้าสามเฟสมักใช้ในสถานที่ที่ต้องการพลังงานสูง เช่น โรงงานหรือศูนย์ข้อมูล โดยจะส่งพลังงานจากแหล่งจ่ายไฟผ่านสายไฟสามเฟสไปยังอาคาร
  2. การแปลงเป็นไฟเฟสเดียว:
    ภายในอาคาร ระบบไฟสามเฟสสามารถแปลงเป็นไฟเฟสเดียวเพื่อใช้งานในอุปกรณ์ทั่วไป เช่น แสงสว่าง เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
  3. การจ่ายไฟตรงไปยังอุปกรณ์สามเฟส:
    สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการไฟฟ้าสามเฟส เช่น มอเตอร์ ลิฟต์ หรือปั๊มน้ำ ระบบนี้สามารถจ่ายไฟตรงโดยไม่ต้องแปลง

สรุปการเปรียบเทียบแบบง่าย ๆ
ลองจินตนาการถึงทีมพายเรือ:

  • แบบเฟสเดียว เปรียบเสมือนคนพายเรือคนเดียว ซึ่งต้องพายเป็นช่วง ๆ ดังนั้นเรืออาจมีช่วงเวลาที่หยุดหรือชะลอ
  • แบบสามเฟส เปรียบเหมือนทีมพายเรือ 3 คน ซึ่งจะมีคนพายอยู่เสมอ ทำให้เรือเคลื่อนที่ต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ

ข้อสรุป

  • เครื่องสำรองไฟแบบเฟสเดียว: เหมาะสำหรับงานติดตั้งขนาดเล็กหรือในบ้าน เช่น ธุรกิจขนาดเล็ก หรืออุปกรณ์ที่ใช้ปลั๊กไฟมาตรฐาน รองรับได้สูงสุดประมาณ 20 kVA
  • เครื่องสำรองไฟแบบสามเฟส: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการพลังงานสูงและเสถียรภาพ เช่น ศูนย์ข้อมูล โรงพยาบาล หรือโรงงานอุตสาหกรรม

 

BT Connect พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำระบบ UPS ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ!









บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีป้องกันแบตเตอรี่ UPS เสื่อมสภาพก่อนเวลา
ที่ BT Connect เราจัดจำหน่ายระบบ Battery Monitoring ที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสำหรับการใช้งานในทุกอุตสาหกรรม เรามุ่งเน้นการให้บริการโซลูชันที่ทันสมัย เพื่อช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบและจัดการแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนทุกความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
16 ม.ค. 2025
ความแตกต่างระหว่าง Line Interactive UPS กับ Online UPS
การเลือกเครื่องสำรองไฟ (UPS) ที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องเลือก Line Interactive UPS หรือ Online UPS เพราะทั้งสองแบบมีจุดเด่นและจุดแตกต่างกันในเรื่องคุณสมบัติและประสิทธิภาพการป้องกันระบบไฟฟ้า
16 ม.ค. 2025
วิธีเลือกเครื่องสำรองไฟ (UPS) สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม
เครื่องสำรองไฟในอุตสาหกรรม (Industrial UPS) ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน เช่น โรงงานอุตสาหกรรม พื้นที่ทำเหมือง โรงกลั่นน้ำมันและก๊าซ อุตสาหกรรมเคมี โรงไฟฟ้า โรงงานผลิตเวิร์กช็อป หรือแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่ง เป็นต้น ในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ อุปกรณ์มักต้องเผชิญกับสภาวะที่รุนแรง เช่น ฝุ่นละอองจำนวนมาก การขาดระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (HVAC) และคุณภาพไฟฟ้าที่ไม่เสถียร ดังนั้นการเลือก UPS ที่เหมาะสมจึงสำคัญมาก เพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีเสถียรภาพและปลอดภัย
16 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ